How to buy bonds
ซื้อขายตราสารหนี้ที่ไหน
ปกติเราจะซื้อตราสารหนี้ได้ที่ไหน?
รัฐบาลออกพันธบัตร หรือบริษัทเอกชนออกหุ้นกู้ ให้ตัวแทนจำหน่าย(ธนาคารพาณิชย์) หลักจากนั้นตัวแทนจำหน่ายจะนำออกมาขายให้กับนักลงทุน โดยปกติขั้นต่ำคือ 100หน่วย หน่วยละ 1000 บาท ซึ่งการซื้อขายครั้งแรกนี้ เรียกว่า ตลาดแรก(Primary market) โดยมูลค่าการซื้อขายครั้งแรก จะเรียกว่า การซื้อขายในราคาตามมูลค่าที่ตราไว้ (Par Value) และโดยปกติ ระยะเวลา การลงทุนส่วนใหญ่คือ 3 ปี 5 ปี 10 ปี (แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่ตกมาถึงมือเราหรอกครับ เพราะธนาคารให้รายใหญ่ก่อน T T) แต่บางครั้งก็มี พันธบัตรที่นับเป็นทางเลือกที่ดีของนักลงทุนรายย่อยที่มีวงเงินการลงทุนไม่สูงนัก ก็คือ “พันธบัตรออมทรัพย์” ที่ออกเสนอขายให้แก่นักลงทุนและประชาชนทั่วไปโดยตรง
หลังจากที่มีการซื้อขายผ่านตลาดแรกแล้ว ผู้ลงทุนรายอื่นสามารถซื้อขาย เปลี่ยนมือกันเองได้ เรียกว่า ตลาดรอง(Secondary Market) โดยตลาดรองจะมีการลงทุน ขั้นต่ำ 1000 หน่วย หน่วยละ 1000 บาท ซึ่งต้องใช้เงิน หลักล้าน ฉะนั้น โดยปกติ ในตลาดรองเราจะเจอแต่นักลงทุนรายใหญ่ หรือนักลงทุนที่เป็นระดับสถาบัน (เช่น กองทุน หรือบริษัทประกันภัย)ซะส่วนใหญ่ โดยปกติตลาดตราสารหนี้นั้นมีลักษณะการซื้อขายแบบ Over the counter หรือ OTC คือไม่มีระบบหรือสถานที่กลางในการจับคู่การซื้อขาย ผู้ที่สนใจที่จะซื้อขายตราสารหนี้สามารถติดต่อกับสถาบันการเงินและบริษัทหลักทรัพย์ที่มีธุรกรรม การค้าตราสารหนี้เพื่อแจ้งความประสงค์และทำการซื้อขาย ซึ่งคิดง่ายๆเลยว่าสภาพคล่อง(ความเร็วในการเปลี่ยนมือของตราสาร)จะไม่เท่าตลาดหุ้นที่เราคุ้นเคยกันแน่นอน เพราะตลาดหุ้นจะมีระบบที่จับคู่การซื้อขายที่เป็นส่วนกลาง นอกจากนี้ตราสารหนี้บางตัวมีสภาพคล่องต่ำมาก ตอนเราขายออกอาจถูกกดราคาได้
มาดูตัวอย่าง ตัวแทนจำหน่ายพันธบัตร หรือหุ้นกู้กันครับ
รัฐบาลออกพันธบัตร หรือบริษัทเอกชนออกหุ้นกู้ ให้ตัวแทนจำหน่าย(ธนาคารพาณิชย์) หลักจากนั้นตัวแทนจำหน่ายจะนำออกมาขายให้กับนักลงทุน โดยปกติขั้นต่ำคือ 100หน่วย หน่วยละ 1000 บาท ซึ่งการซื้อขายครั้งแรกนี้ เรียกว่า ตลาดแรก(Primary market) โดยมูลค่าการซื้อขายครั้งแรก จะเรียกว่า การซื้อขายในราคาตามมูลค่าที่ตราไว้ (Par Value) และโดยปกติ ระยะเวลา การลงทุนส่วนใหญ่คือ 3 ปี 5 ปี 10 ปี (แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่ตกมาถึงมือเราหรอกครับ เพราะธนาคารให้รายใหญ่ก่อน T T) แต่บางครั้งก็มี พันธบัตรที่นับเป็นทางเลือกที่ดีของนักลงทุนรายย่อยที่มีวงเงินการลงทุนไม่สูงนัก ก็คือ “พันธบัตรออมทรัพย์” ที่ออกเสนอขายให้แก่นักลงทุนและประชาชนทั่วไปโดยตรง
หลังจากที่มีการซื้อขายผ่านตลาดแรกแล้ว ผู้ลงทุนรายอื่นสามารถซื้อขาย เปลี่ยนมือกันเองได้ เรียกว่า ตลาดรอง(Secondary Market) โดยตลาดรองจะมีการลงทุน ขั้นต่ำ 1000 หน่วย หน่วยละ 1000 บาท ซึ่งต้องใช้เงิน หลักล้าน ฉะนั้น โดยปกติ ในตลาดรองเราจะเจอแต่นักลงทุนรายใหญ่ หรือนักลงทุนที่เป็นระดับสถาบัน (เช่น กองทุน หรือบริษัทประกันภัย)ซะส่วนใหญ่ โดยปกติตลาดตราสารหนี้นั้นมีลักษณะการซื้อขายแบบ Over the counter หรือ OTC คือไม่มีระบบหรือสถานที่กลางในการจับคู่การซื้อขาย ผู้ที่สนใจที่จะซื้อขายตราสารหนี้สามารถติดต่อกับสถาบันการเงินและบริษัทหลักทรัพย์ที่มีธุรกรรม การค้าตราสารหนี้เพื่อแจ้งความประสงค์และทำการซื้อขาย ซึ่งคิดง่ายๆเลยว่าสภาพคล่อง(ความเร็วในการเปลี่ยนมือของตราสาร)จะไม่เท่าตลาดหุ้นที่เราคุ้นเคยกันแน่นอน เพราะตลาดหุ้นจะมีระบบที่จับคู่การซื้อขายที่เป็นส่วนกลาง นอกจากนี้ตราสารหนี้บางตัวมีสภาพคล่องต่ำมาก ตอนเราขายออกอาจถูกกดราคาได้
มาดูตัวอย่าง ตัวแทนจำหน่ายพันธบัตร หรือหุ้นกู้กันครับ
ครั้งหน้าเรามาดูภาษีที่เกี่ยวข้องกับตราสารหนี้กัน ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น