Risk
ความเสี่ยงของการลงทุน
ก่อนที่เราจะเข้าเรื่องการลงทุนในรูปแบบต่างๆ
วันนี้ผมอยากจะคุยเรื่องสำคัญอีกเรื่องที่หลายคนมักจะมองข้ามเรื่องนี้ นั่นคือ ความเสี่ยง ครับ ก่อนอื่นผมขอนิยามคำว่าความเสี่ยงก่อนนะครับ ความเสี่ยง คือ ปัจจัยที่เราควบคุมไม่ได้ที่อาจจะมามีผลกระทบต่อผลตอบแทนในการลงทุนของเราครับ
ไม่ว่าจะในทางบวก (กำไรมากกว่าปกติ) หรือ
ในทางลบ(ขาดทุนมากกว่าปกติ) หรือที่เค้าเรียกกันว่า High Risk High Return นี่แหละครับ
ทุกคนต้องลงทุนให้ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นอยู่ในระดับที่ตัวเองรับได้ คำถามก็คือ
แล้วปัจจัยอะไรล่ะ ที่ทำให้แต่ละคนรับความเสี่ยงได้ไม่เท่ากัน ซึ่งเกณฑ์ส่วนใหญ่ที่ผมพบเห็นเป็นประจำมีดังนี้ครับ
1.เป้าหมายการลงทุน
เราลงทุนเพื่ออะไร อะไรคือเป้าหมายการลงทุนของเรา เช่น อยากมีรายได้ประจำ หนีเงินเฟ้อ อยากมีรายได้เสริม อยากมีเงินไว้ใช้ยามเกษียร ลงทุนเพื่อลดภาษี เป็นต้น
2.ใจเรารับความเสี่ยงได้ขนาดไหน
บางคนมีเงินเย็นหลายล้านบาท
แต่ทำใจไม่ได้ที่เงินจะหายไปแม้แต่บาทเดียว ก็ถือว่าใจรับความเสี่ยงไม่ได้
บางคนมีเงินเย็นหลักแสนบาท แต่เงินหายไป 50 % ของพอร์ตก็ยอมรับได้
ไม่ซีเรียส แปลว่า ใจใหญ่รับความเสี่ยงสูงได้
พูดง่ายๆว่าจริตแต่ละคนไม่เหมือนกันครับ
3.ปัจจัยส่วนบุคคล
คนที่อายุเยอะ จะรับความเสี่ยงได้น้อยกว่าคนที่อายุน้อยกว่า
คนโสดรับความเสี่ยงได้สูงกว่าคนมีครอบครัว เพราะ
จะต้องกันเงินส่วนหนึ่งไว้เป็นค่าเทอมลูก
4.ประสบการณ์การลงทุนส่วนบุคคล
คนที่มีประสบการณ์ในการลงทุนสูง ส่วนใหญ่จะรับความเสี่ยงได้สูงกว่า
เพราะมีความมั่นใจมากกว่า
5.ระยะเวลาที่ใช้ในการลงทุน
ระยะเวลาการลงทุน เช่น
บางคนมีแผนที่จะต้องใช้เงินก้อนนี้ภายในระยะเวลา 3 เดือน 6 เดือน หรือ 1 ปี ทำให้ไม่สามารถรับความเสี่ยงได้
จากที่กล่าวมาข้างต้น คือ
ปัจจัยหลักๆที่พบเห็นเป็นประจำ สำหรับการรับความเสี่ยงของแต่ละบุคคล ว่ามีมากน้อยเนื่องจากสาเหตุใดบ้าง
ทำให้แต่ละบุคคลสามารถเผชิญความเสี่ยงได้ในระดับที่แตกต่างกัน แล้วความเสี่ยงในการลงทุนมีอะไรบ้างที่เราจะต้องเผชิญ เรามาดูกัน
1.ความเสี่ยงจากการผันผวนของอัตราดอกเบี้ย
(interest rate risk)
อัตราดอกเบี้ยมีผลกับหลักทรัพย์ที่เราถือลงทุน
2.ความเสี่ยงที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของภาวะตลาดโดยรวม (market risk)
ภาวะเศรษฐกิจในประเทศซบเซา อาจส่งผลให้ราคาของหลักทรัพย์ต่างๆ
3.ความเสี่ยงที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง (political risk)
เกิดการปฏิวัติ เปลี่ยนแปลงการปกครอง อาจทำให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายการบริหารประเทศและการลงทุนได้ อาจส่งผลให้ราคาของหลักทรัพย์ในตลาดลดลงได้
4.ความเสี่ยงจากการดำเนินธุรกิจของบริษัทที่เราไปลงทุน (company risk)
บริษัทบริหารงานผิดพลาดจนทำให้ผลการดำเนินงานขาดทุน ถ้าเราไปซื้อหุ้นประเภทนี้ก็อาจมีความเสี่ยงได้
5.ความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ (credit risk)
เป็นความเสี่ยงที่เกิดกับตราสารหนี้ เนื่องจากบริษัทที่ออกหุ้นกู้ไม่สามารถชำระเงินคืนเจ้าหนี้ได้ เป็นต้น
6.ความเสี่ยงจากการขาดสภาพคล่อง (liquidity risk)
ไม่สามารถซื้อขายหลักทรัพย์ในเวลาที่เหมาะสมได้ เช่น มีที่ดินราคาสูงอยู่ในมือ แต่ไม่สามารถขายได้ในเวลาที่เหมาะสม
อัตราดอกเบี้ยมีผลกับหลักทรัพย์ที่เราถือลงทุน
2.ความเสี่ยงที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของภาวะตลาดโดยรวม (market risk)
ภาวะเศรษฐกิจในประเทศซบเซา อาจส่งผลให้ราคาของหลักทรัพย์ต่างๆ
3.ความเสี่ยงที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง (political risk)
เกิดการปฏิวัติ เปลี่ยนแปลงการปกครอง อาจทำให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายการบริหารประเทศและการลงทุนได้ อาจส่งผลให้ราคาของหลักทรัพย์ในตลาดลดลงได้
4.ความเสี่ยงจากการดำเนินธุรกิจของบริษัทที่เราไปลงทุน (company risk)
บริษัทบริหารงานผิดพลาดจนทำให้ผลการดำเนินงานขาดทุน ถ้าเราไปซื้อหุ้นประเภทนี้ก็อาจมีความเสี่ยงได้
5.ความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ (credit risk)
เป็นความเสี่ยงที่เกิดกับตราสารหนี้ เนื่องจากบริษัทที่ออกหุ้นกู้ไม่สามารถชำระเงินคืนเจ้าหนี้ได้ เป็นต้น
6.ความเสี่ยงจากการขาดสภาพคล่อง (liquidity risk)
ไม่สามารถซื้อขายหลักทรัพย์ในเวลาที่เหมาะสมได้ เช่น มีที่ดินราคาสูงอยู่ในมือ แต่ไม่สามารถขายได้ในเวลาที่เหมาะสม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น